อย่างที่ทราบกันดีว่า ตอนนี้บริการขนส่งสินค้าเป็นสิ่งที่ผู้คนใช้บริการกันเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อ – ขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ ยิ่งใช้บริการขนส่งมากขึ้นกว่าเดิม ในการขนส่งสินค้าในปัจจุบันนี้มีในส่วนของการจัดส่งผลไม้ด้วย ซึ่งอย่างที่รู้กันดีว่า ผลไม้ เป็นสิ่งที่เน่าเสียได้ง่าย การจัดสิ่งจึงต้องระวัง และมีระบบที่จะช่วยรักษาสภาพของผลไม้ในการขนส่งด้วย แล้วหากว่าอยากส่งผลไม้ แต่ไม่รู้ว่าจะส่งผลไม้ทางไหนดี ในบทความนี้จึงอยากจะมาแนะนำช่องทางจัดส่งผลไม้มาให้ได้รู้กันว่า สามารถส่งได้ผ่านช่องทางไหนบ้าง
1. ส่งผ่านบริษัทขนส่ง
ช่องทางแรกที่สามารถขนส่งผลไม้ได้ คือ การส่งผ่านทางบริษัทขนส่ง โดยปัจจุบันนี้มีบริษัทขนส่งให้บริการอยู่มากมาย แต่ละเจ้านอกจากที่ให้บริการขนส่งพัสดุแล้ว ยังรับส่งผลไม้ด้วย ซึ่งขนส่งของบริษัทต่าง ๆ ไม่เพียงแค่รับส่งผลไม้แบบธรรมดาเท่านั้น แต่ยังรับส่งผลไม้ด้วยห้องเย็นด้วย สำหรับบริการส่งด้วยห้องเย็นนั้น จะเป็นการช่วยรักษาคุณภาพของผลไม้เอาไว้ให้ยังอยู่ดี และสดใหม่ได้อยู่ แม้จะผ่านการขนส่งที่ยาวนานก็ตาม แต่ทั้งนี้การขนส่งด้วยห้องเย็น ก็มีราคาที่สูงกว่าการขนส่งธรรมดา เนื่องจากว่าต้องใช้รถเฉพาะด้านนี้ในการขนส่ง
2. ส่งผ่านทางรถไฟ
นอกจากที่สามารถส่งผลไม้ผ่านทางบริษัทขนส่งต่าง ๆ ได้แล้ว อีกหนึ่งช่องทางที่สามารถทำได้เช่นกัน ก็คือ การส่งผลไม้ผ่านทางรถไฟ โดยบริการนี้อาจจะมีผู้คนรู้ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่จริง ๆ แล้วรถไฟรับส่งสิ่งของต่าง ๆ รวมถึงผลไม้ด้วย ซึ่งราคาของการขนส่งก็ไม่ได้แพงมากนัก แต่ก็มีข้อเสียนิดนึงตรงที่ของอาจจะถึงช้า และอาจจะมีปัญหาผลไม้ไม่สด หรือเน่าเสียได้ ดังนั้นก่อนการส่งผลไม้ผ่านทางรถไฟก็ต้องมีการแพ็คผลไม้ให้ดี และเหมาะสมกับการส่งผ่านช่องทางนี้มากที่สุดด้วย
3. ส่งผ่านทางรถขนส่งมวลชน
อีกหนึ่งช่องทางที่สามารถส่งผลไม้ได้เช่นกัน ก็คือ การใช้บริการรถขนส่งมวลชนนั่นเอง โดยเฉพาะรถตู้ และรถทัวร์ ที่นอกจากจะให้บริการสำหรับผู้คนในการนั่งไปยังปลายทางที่ต้องการแล้ว ผลไม้ หรือสิ่งของบางอย่างก็สามารถส่งผ่านรถตู้ และรถทัวร์ได้เช่นกัน ซึ่งข้อดีของการส่งผ่านทางนี้ก็คือ ถึงปลายทางค่อนข้างรวดเร็ว ยิ่งระยะทางจากจุดรับไปจนถึงปลายทางไม่ไกลกันมากนัก ผลไม้ หรือของที่ส่งก็จะได้รับในวันนั้นเลย หรืออาจจะไม่กี่ชั่วโมงก็ได้รับเลย แถมค่าบริการในการขนส่งก็ไม่ได้แพงมากด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการส่งผลไม้ที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็เป็นช่องทางในการส่งผลไม้ โดยสำหรับผู้ที่ต้องการจัดส่งผลไม้ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกส่งผลไม้ทางไหนดี ก็สามารถเลือกใช้บริการจากช่องทางต่าง ๆ ที่แนะนำเอาไว้ได้เลย ทั้งนี้ก็ควรเลือกช่องทางการจัดส่งให้เหมาะสม เพื่อให้ผลไม้ที่จัดส่งยังสามารถคงคุณภาพเอาไว้ได้ และไม่เน่าเสียก่อนที่จะไปถึงมือของผู้รับนั่นเอง รวมถึงผู้จัดส่งเองก็ต้องแพ็กสินค้าให้ดีด้วย เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มความมั่นใจด้วยว่าผลไม้จะยังอยู่ในสภาพที่ดี และไม่เสียหายระหว่างการขนส่ง